ตั้งแต่ดูหนังมา. หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ผมกล้าแนะนำทุกคนแบบสุดเสียง
“2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”
ไม่ใช่แค่”น่าดู”
“แต่..ต้องดู”
หนังเรื่องนี้สร้างจากโครงการ”ก้าวคนละก้าว”ของ”ตูน บอดี้สแลม”เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ซึ่งกลายเป็น”ปรากฏการณ์”ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศไทย
เมื่อคนๆหนึ่งวิ่งจากใต้สุดไปเหนือสุดของเมืองไทย
ก่อนที่”ตูน”จะเริ่มโครงการนี้. เขาเข้าไปคุยกับ”พี่เก้ง”จิระ มะลิกุล.
ตอนแรก เขาอยากให้ GDH ช่วยตัดฟุตเทจจากการ LIVE ของการวิ่งไปบางสะพานเป็นหนังหรือบันทึกความทรงจำ
แต่”พี่เก้ง”และ”วรรณ”วรรณฤดี. พงษ์สิทธิศักดิ์ โปรดิวเซอร์มือทองของ GDH บอกว่าการทำหนังกับการบันทึก LIVE นั้นแตกต่างกัน
ขอเป็นโครงการใหม่ที่”ตูน”กำลังจะทำดีกว่า
“พี่เก้ง”ชอบวิ่งอยู่แล้ว.
เขาเคยไปวิ่งกับ”ตูน”มาแล้วในโครงการบางสะพาน
ได้เห็นความงดงามและพลังดีๆตลอดข้างทางที่”ตูน”วิ่ง
GDH ดึง”ไก่”ณฐพล บุญประกอบ คนเขียนบทภาพยนตร์มือดี และผู้กำกับหนังสารคดีหลายเรื่องมาเป็นผู้กำกับหนังเรื่องนี้
“ไก่”กำลังเรียนต่อที่นิวยอร์ค เรื่องสารคดี
เขาบินกลับมาทันทีเมื่อรู้ว่าได้ทำโครงการนี้
”ไก่”และน้องๆอีก 5 คน ติดตามบันทึกภาพการวิ่ง 2,215 กิโลเมตรของ”ตูน”
สารคดีแบบนี้ไม่มี”บทภาพยนตร์”ล่วงหน้า
เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตลอดเวลา 55 วันนี้
จากวันนั้นจนถึงวันนี้
7 เดือนกว่า
ฟุตเทจทั้่งหมดก็กลายมาเป็นหนังสารคดีที่ยิ่งใหญ่
“2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”
..............
ผมดูหนังเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขอ”พี่เก้ง”เหมารอบให้นักเรียน ABC ทุกรุ่นได้ดูกัน
หวังจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการร่วมบริจาคเงินตามเป้าหมายของ”ตูน”
ตอนแรก"ตูน"ตั้งใจที่จะให้ทุกคนได้ดูฟรี
"ตูน"ขอเปลี่ยน"ค่าตั๋ว"เป็นเงินบริจาคเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
"ราคาตั๋ว"ขึ้นอยู่กับเราจะให้ค่ากับหนังเรื่องนี้แค่ไหน
"คิงเพาเวอร์"ให้การสนับสนุนโครงการนี้เต็มที่
เหมาโรงทั้งในเครือเมเจอร์และเอสเอฟให้คนดูฟรี 700,000 กว่าที่นั่ง
แต่ตอนหลังมีคนบอกว่าถ้าเปิดให้ดูฟรีอย่างเดียว. คนที่อยากดูแต่ขี้เกียจไปลุ้นหน้าโรงว่ามีที่นั่งว่างหรือเปล่าจะไม่ไปดู
เขาก็เลยเปิดขายบัตรตามปกติแต่ราคาถูกเป็นพิเศษ
และเพิ่มช่องทางให้คนที่อยากส่งต่อแรงบันดาลใจบริจาคเงินก้อนหนึ่งเข้ามูลนิธิและเหมาโรงให้นักเรียนหรือคนในบริษัทมาดู
"2,125 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว"เป็นหนังที่น่ารักมากๆครับ
หนังเรื่องนี้พาเราให้ย้อนอดีตกลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งความสุขอีกครั้งหนึ่ง
เรื่องราวของผู้ชายรูปร่างผอมบางคนหนึ่ง.
บนเวที เขาเป็น"ร็อคสตาร์"อันดับหนึ่งของเมืองไทย
แต่ช่วงเวลานั้น "ตูน"คือ คนที่ทั้ง"บ้า"และ"ดื้อ"กับเกมที่เขากำหนดขึ้นมาเอง
55 วันกับระยะทาง 2,215 กิโลเมตร
ไม่มีการผ่อนปรนอะไรทั้งสิ้น
มีฉากหนึ่งที่ทีมงานบอกให้"ตูน"เลิกแวะถ่ายรูปหรือทักทายกับคนที่ยืนรอตามทาง
แต่"ตูน"บอกว่าเขาทำไม่ได้
ทุกคนอยากเจอเขา
ถ้าเขาวิ่งผ่านไป. ภาพนั้นก็จะยังติดตาเขาอยู่
แล้วจะ"คาใจ"ว่าทำไมไม่ทักทายคนที่รอเจอเขา
นั่นคือ "ตูน"
......
สิ่งที่ผมชอบมากในหนังเรื่องนี้ คือ บทภาพยนตร์
"ไก่"เก่งมาก
เขาเขียนบทจาก"ความจริง"ที่เกิดขึ้น
แต่เสริมแต่งอย่างเหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์พ่อ-แม่ของ"ตูน"ถึงวัยเด็ก
หรือการใช้เส้นเรื่องจากการสัมภาษณ์"กบ"บิ๊กแอส
คนที่แต่งเพลงให้"ตูน"
และเข้าใจ"ตูน"มากที่สุดคนหนึ่ง
เพราะ"ตูน"เป็นคนขี้อายที่จะพูดถึงตัวเองในมุมดีๆ
คำพูดของ"กบ"จึงช่วยทำให้เรารู้จัก"ตูน"มากขึ้น
ในมุมที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
บอกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้คมคายขึ้นเพราะคำพูดของ”กบ”
แต่ละประโยคของ"กบ"คมมากครับ
ในหนังเราจะเห็นว่าแท้จริง”ตูน”ก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง
ไม่ใช่”ซูเปอร์ฮีโร่”
มีทั้งอารมณ์เกรี้ยวกราด ขว้างของ บนรถบ้าน
ดื้อกับแม่
หรือมุขแป๊กในบางเวลา
แต่”ความยิ่งใหญ่”ของ”ตูน”คือ ขนาดของ”หัวใจ”
คุณเคยดูหนังที่ไม่อยากให้จบไหมครับ
ตอนที่หนังเดินเรื่องมาถึงเชียงราย
เรารู้แล้วว่าหนังกำลังจะจบ
เพราะอีกนิดเดียวก็ถึง”แม่สาย”
ปลายทางของการวิ่งครั้งนี้
แต่เรายังอยากดูต่อ
ไม่อยากให้จบ
แต่ไม่ว่า”ความปรารถนา”ของเราจะเป็นอย่างไร
“ความจริง”ก็คือ”ความจริง”
หนังเรื่องนี้ต้องจบ
เหมือนกับ”ชีวิต”ที่ต้องมีการแยกจาก
ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ให้อะไรกับเรา
ตอบได้เลยครับว่าให้แรงบันดาลใจที่ท่วมท้น
ได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราได้ทำอะไรเพื่อผู้อื่นบ้างหรือยัง
ไม่ต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ระดับชาติเหมือน”ตูน”
เพราะทุกคนมี”ขนาด”ที่เหมาะสมของตัวเอง
ไม่ต้องทำใหญ่เท่าเขา
แต่ให้ทำแบบเขา
ทำเพื่อคนอื่น
มีคนถามผมว่าเขามีเงินอยู่ก้อนหนึ่ง
จะบริจาคเข้ามูลนิธิทั้งหมดหรือเหมาโรงให้คนในบริษัทหรือนักเรียนได้ดูหนังเรื่องดี
คำแนะนำของผมก็คือ...
“เหมาโรงเถอะครับ”
เพราะผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้เหมือน”น้ำ”และ”ปุ๋ย”ที่จะช่วยให้ต้นไม้”ความดี”ในใจที่ทุกคนมีอยู่เติบโตขึ้น
ถ้าแค่ครึ่งหนึ่งของคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้คิดจะทำเพื่อคนอื่นแบบ"ตูน"
สังคมไทยคงงดงาม
..........
วันที่ดูหนังฝนตกหนักทำให้มีที่นั่งเหลือพอประมาณ
ผมติดนิสัยชอบดูหนังคนเดียวแบบโล่งๆก็เลยเลือกที่นั่งแถวหน้าๆ
เป็นแถวที่ไม่มีคนนั่งเลย
ช่างเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาก
เพราะหนังเริ่มไปแค่ 5 นาที.
นัยน์ตาเริ่มมีความเปียกชื้นมาปกคลุม
ถ้ามีคนนั่งติดกัน. ผมจะรักษาฟอร์ม นั่งนิ่งๆ ปล่อยให้น้ำตาเอ่อไปเรื่อยๆ.
ความมืดในโรงหนังมีประโยชน์ตรงนี้
ถ้าเราไม่แสดงอาการ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเรากำลังร้องไห้
ถ้ารำคาญมากก็แกล้งคันตาหลังจากซีนนั้นผ่านไป
แล้วก็พยายามดึงอารมณ์ไม่ให้คล้อยตามหนัง
จะไม่ยอมเสียฟอร์มควักผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเด็ดขาด
แต่วันนี้สบายมากครับ
ทั้งแถวที่นั่ง ไม่มีใครเห็น
ผมควักผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋ากางเกงอย่างสง่าผ่าเผยเลย
ถอดแว่น แล้วซับน้ำตา
ก่อนเก็บผ้าเช็ดหน้าเข้ากระเป๋า
ผ่านไปอีกพักหนึ่ง. เฮ้ย...คลออีกแล้ว
เหมือนเดิม
ควักผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา เสร็จแล้วเก็บเข้ากระเป๋า
พอถึงกลางเรื่องเอาอีกแล้ว
ครั้งนี้ผมควักผ้าเช็ดหน้าวางไว้บนตักเลย
ท้า”ไก่”ณัฐพล. ผู้กำกับฯในใจ
รู้แล้วว่าเขาไม่หยุดแน่
เอาเลย”ไก่”... ตามสบาย
"ผ้าเช็ดหน้า"พร้อม
"2,125 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว"ไม่ใช่หนังเศร้า
แต่เป็นหนังที่น่ารักมากๆ
คุณเคยเจอหนังที่น่ารักจนจนน้ำตาคลอเพราะความประทับใจไหมครับ
หนังเรื่องนี้เป็นแบบนั้น
..........
ตอนใกล้จบของ”2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว”
มีฉาก”ตูน”บอกกับทีมงานก่อนลงไปวิ่งครั้งสุดท้าย
“จบแล้ว ไม่ทำอีกแล้ว”
เหมือนจะบอกทีมงานที่เหน็ดเหนื่อยทุกคนว่า”อาทิวราห์ คงมาลัย”จะไม่ทำอะไรบ้าๆแบบนี้อีก
ผมเชื่อว่าฉากนี้”ไก่”คงไม่ได้คิดเอง
แต่ทีมงาน”ก้าว”กดดันผู้กำกับ
ขอให้มีฉากนี้ในหนัง
เพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน
เวลา”ตูน”คิดอะไรบ้าๆขึ้นมาอีก
ทุกคนจะเอาฉากนี้ให้”ตูน”ดู
“สัญญาว่าไง”
เพราะทุกคนรู้ดีว่า”ตูน”คงไม่จบแค่นี้แน่นอน
“เส้นชัย”สำหรับ”ตูน”
มันคือ “การสิ้นสุด”ของสิ่งหนึ่ง
เพื่อจะ”เริ่มต้น”สิ่งใหม่เท่านั้นเอง
เพราะนี่คือ”ความสุข”แท้จริงที่เขาได้ค้นพบแล้ว
Since I watched the movie. This movie is a movie that I dare to recommend everyone.
" Haha. I believe that I'm crazy. I dare to
Not just "nice to watch"
"But.. must watch"
This movie is made from the " One Step " project of " Toon Bodyslam " at the end of the year.
Which became the greatest "phenomenon" of Thailand.
When someone runs from south to the north of Thailand
Before "Toon" starts this project. He went in to talk to "Brother Keng" Jira Mali KUl.
At first he wanted GDH to help cut the foot from the live of running to bang saphan or a movie.
But " Brother Predatory " and " Wan " Wan Rit Dee. Pongsak, GDH's golden producer said that the movie making and live recording is different.
Let's be a new project that "Toon" is about to do.
"Brother Predatory" likes to run anyway.
He has been running with "Toon" in Bang Saphan project.
I have seen the beauty and good power on the side of the road that "Toon" runs.
GDH Pull "Kai" Nathaphon Bunprakkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkkk
"Chicken" is studying in New York about documentaries.
He flew right back when he found out this project.
" Kai " and 5 other sisters follow the 2,215 km run of " Toon "
Documentaries like this don't have " screenplay
Because no one knows what will happen all the time 55 today
From that day till today
Over 7 months
All the footage became a great documentary.
" Haha. I believe that I'm crazy. I dare to
..............
I watched this movie last week
Asking for "Brother Predatory" to buy round for all models of ABC students to watch.
Hope to be a good start of donating money according to "Toon" goal.
First episode "Toon" intended to let everyone watch for free.
" Toon " would like to change " ticket " to buy medical equipment for Akaranwamin 8 4 Buddhist Lent of Medicine Siriraj.
"Ticket price" depends on how much we value this movie.
"King Power" supports this project.
Buying both major and SF group for more than 700,000 seats to watch.
But later, someone told me that if I open it for free only. Those who want to watch but lazy to see if there is an empty seat. I won't go to see.
So they are open for sale as usual, but it's cheap.
And add a way to those who want to pass on inspiration to donate money to the foundation and buy a school for students or company.
"Haha. I believe that I dare to step" is a very cute movie.
This movie takes us back to the happy times.
The story of some skinny man.
On stage he is the number one "rock star" in Thailand.
But that moment " Toon " is the one who is " crazy " and " stubborn " with his own game.
55 days and 2,215 km distance
No respite at all
There is a scene where the team told "Toon" to stop by to take photos or say hi to those who are waiting along the way.
But "Toon" says he can't.
Everyone wants to see him
If he runs through. That picture will still be stuck in his eyes
Why don't you say hi to those who wait to see him?
That's "Toon"
......
My favorite thing in this movie is the movie.
"Chicken" is very good
He wrote a script from "truth"
But enhance the proper decoration.
Whether it's an interview for "Toon" to childhood.
Or using the line from the "Kop" interview.
The one who wrote the song for "Toon"
And understand one of the most "Toon"
Because "Toon" is shy to talk about himself in a good corner.
The words of " Kop " help us know more about " Toon "
In a corner we never knew.
I can tell that this movie is sharp because of the words of " frog
Each sentence of "Kop" is very sharp.
In the movie, we will see that "Toon" is an ordinary person.
Not a " superhero
There is a temper, angry, throwing stuff on the car.
Stubborn with mom
Or a joke some time
But the " greatness " of " Toon " is the size of " heart "
Have you ever finished watching a movie that you don't want to finish?
When the movie came to Chiang Rai
We knew the movie was about to end.
Because just a little bit more to "Mae Sai"
Destination of this run
But we still want to continue watching
Don't want to finish
But no matter what our "desire" is.
" Truth " is " truth "
This movie must end
Just like "life" to be separated from
If you ask what this movie gave us
I can answer that it gives overwhelming inspiration.
Have you asked myself what have we done for others?
No need to be a national big thing like "Toon"
Because everyone has their own "size"
No need to do it as big as him
But let's do it like him
Do it for others.
Someone asked me if he had a bar of money
Do you want to donate to all the foundation or buy theaters for people in the company or students to watch movies?
My advice is...
"Let's buy the shed"
Because I believe that this movie is like " water " and " fertilizer " that will help the " goodness " in mind that everyone has growing up.
If only half of the people watched this movie think about doing it for other people like "Toon"
Thai society would be beautiful
..........
Movie day. Heavy rain makes a lot of seats left.
I'm addicted to watching movies alone, so I choose front row seats.
It's a row where there is no one to sit.
What a right decision
Because the movie started for 5 minutes.
Eyes are getting wet.
If someone sits in a row. I will keep the form, sit still, let the tears, uh, go.
Darkness in the theater is useful here.
If we don't show symptoms, nobody knows we're crying.
If you are very annoyed, pretending to be itchy after that scene has passed
Then try to pull the mood from the movie
I won't lose the form to take a handkerchief.
But today is very comfortable.
The whole row of seats, no one can see.
I took the handkerchief out of my pants gracefully.
Taking off my glasses and tears
Before packing handkerchief in the bag
It's been a while. Hey... again
Same same same same as usual
Finished taking the handkerchief and packed it in the bag.
When it comes to the middle of the story again
This time I put my handkerchief on my lap
Challenge "chicken" at cuddle thaphon. Director in mind
I know he won't stop
Go ahead "chicken"... at ease.
"Handkerchief" ready
"Haha. I believe that I dare to step" not a sad movie.
But what a lovely movie
Have you ever met a movie that is so cute that you cry because of the impression?
This movie is like that
..........
Near the end of "Haha. I believe that I dare to step"
There is a scene "Toon" to tell the team before going down to run for the last
"It's done. I won't do it again"
It seems to tell all the tired team that " Sunday, I will never do anything crazy like this.
I believe this scene "chicken" doesn't think about it.
But the team "step" pressures the director.
Let's have this scene in the movie
For proof of confirmation.
When "Toon" thinks more crazy
Everyone will show this scene to "Toon"
" What do you promise
Because everyone knows that "Toon" won't end this for sure.
" finish line " for " Toon "
It's the "ending" of one thing.
To "start" something new
Because this is the true "happiness" he has discovered.Translated
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過9萬的網紅Smart Travel,也在其Youtube影片中提到,泰國官方報導,性工作者中,80%以上是性病帶菌者,此影片純以遊客角度探討曼谷淫業、色情行業陷阱及破解方法。 請用片右下角調高清睇片。 https://youtu.be/-ZuZ0J_wh3U Also watch: 秋葉原行街,吹水講下日本召妓收費 和酒吧種類Akihabara and tel...
where to buy the ordinary foundation 在 Smart Travel Youtube 的最讚貼文
泰國官方報導,性工作者中,80%以上是性病帶菌者,此影片純以遊客角度探討曼谷淫業、色情行業陷阱及破解方法。
請用片右下角調高清睇片。
https://youtu.be/-ZuZ0J_wh3U
Also watch:
秋葉原行街,吹水講下日本召妓收費 和酒吧種類Akihabara and tell you charges for prostitution in Japan
https://youtu.be/aRNNp7lAsQs
Souce from Wikipedia:
Prostitution in Thailand has been common in modern Thailand and its predecessor states for centuries. During the Ayutthaya Kingdom (1351–1767), prostitution was legal and taxed,[1]:2 and the state ran brothels.[2] Since 1960, prostitution in Thailand has been de jure illegal. Nevertheless, it was estimated to be worth US$6.4 billion a year in revenue (2015), accounting for a significant portion of the national GDP.[3]
Sex worker perspectives
Were it not for financial pressures, there is evidence that most sex workers would not choose the work. In Sweden and the Netherlands, where prostitution is "...legal, protected, lucrative and safe,..." it is not a popular profession. Greece provides a recent example of the correlation between prostitution and economic destitution: researchers there estimate that the number of people selling sexual services in Greece has soared by 150 percent since the Greek market collapse in 2008.[81] Many sex workers in those countries are imported from south and Southeast Asia. One Thai university student doing sex work to support herself lamented to an interviewer that "my life doesn't give me choices".[82] The president of Thailand's Foundation for Women notes that, "These women may well have the capacity to separate their sex work from their self-identity." In the words of one of the sex workers she interviewed, "Once I met my customer on a street, he tried to approach me. But I ignored him. What right does he have? Outside a brothel, I am a normal woman."[82]
Some "sex workers" claim that actual sex is a minor part of their occupation. An independent sex worker in Chiang Mai says, "...most of her job is having drinks with customers, only involving sex two or three times a month. Akin to a 'professional girlfriend', ...sex workers provide...company to middle class or foreign men. In return, clients will buy her clothing, take her to watch movies...."[82]
Reasons for the prevalence and toleration of prostitution
Social views
Thai society has its own unique set of often contradictory sexual mores. Visiting a prostitute or a paid mistress is not an uncommon, though not necessarily acceptable, behaviour for men. Many Thai women, for example, believe the existence of prostitution actively reduces the incidence of rape.[14] Among many Thai people, there is a general attitude that prostitution has always been, and will always be, a part of the social fabric of Thailand.[14]
According to a 1996 study, the sexual urge of men is perceived by both Thai men and women as being very much stronger than the sexual urge of women. Where women are thought to be able to exercise control over their desires, the sexual urge of men is seen to be "a basic physiological need or instinct". It is also thought by both Thai men and women that men need "an occasional variation in partners". As female infidelity is strongly frowned upon in Thai society, and, according to a 1993 survey, sexual relationships for single women also meets disapproval by a majority of the Thai population, premarital sex, casual sex and extramarital sex with prostitutes is accepted, expected and sometimes even encouraged for Thai men, the latter being perceived as less threatening to a marriage over lasting relationships with a so-called "minor wife".[57]
Another reason contributing to this issue is that ordinary Thais deem themselves tolerant of other people, especially those whom they perceive as downtrodden. This acceptance has allowed prostitution to flourish without much of the extreme social stigma found in other countries. According to a 1996 study, people in Thailand generally disapprove of prostitution, but the stigma for prostitutes is not lasting or severe, especially since many prostitutes support their parents through their work. Some men do not mind marrying former prostitutes.[58] A 2009 study of subjective well-being of prostitutes found that among the sex workers surveyed, sex work had become normalized.[59].....
ウィキペディアのソース:
アユタヤ王国(1351〜1767)では、売春は合法で課税され[1]:2、州は売春宿を経営していました。タイでは法的に違法であり、見通しとしては、年間収益64億米ドル(2015年)に相当すると推定されており、国内GDPのかなりの部分を占めています。
セックスワーカーの視点
経済的圧力がなければ、ほとんどのセックスワーカーは仕事を選択しないという証拠があります。売春が「...合法、保護、有利、安全」であるスウェーデンとオランダでは、人気がありません。職業:ギリシャは、売春と経済的貧困の相関関係の最近の例を提供します:研究者は、ギリシャで性的サービスを販売する人々の数が2008年のギリシャ市場の崩壊以来、150%急増していることを示しています。自分自身をサポートするためにセックスワークをしている大学生の一人は、「私の人生は私に選択肢を与えてくれない」とインタビュアーに嘆き悲しんだ。[82]タイの女性財団の会長は、「これらは女性は、セックスワークを自己同一性から分離する能力を持っているかもしれません。」彼女がインタビューしたセックスワーカーの一人の言葉で、「通りで顧客に会ったら、彼は私に近づこうとしました。しかし、私は彼を無視しました。わ売春宿の外では、私は普通の女性です。」[82].....
where to buy the ordinary foundation 在 The Ordinary Colours Shades. I bought two The ... - Pinterest 的推薦與評價
Nov 25, 2017 - Buy The Ordinary Serum Foundation at ASOS. With free delivery and return options (Ts&Cs apply), online shopping has never been so easy. ... <看更多>